ติดตามเราบน Facebook

5 ทริคเพิ่มแสงสว่างในห้องทำงาน ไม่ทำร้ายดวงตา

Calendar 6 กุมภาพันธ์ 2566

5 ทริคเพิ่มแสงสว่างในห้องทำงาน ไม่ทำร้ายดวงตา

ดวงตานั้นสำคัญ เพราะทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับการนั่งหน้าจอกันนาน ๆ บางทีจนหลงลืมไปว่า แสงสว่างในห้องทำงานนั้นเพียงพอหรือไม่ หากมีแสงสว่างไม่เพียงพอย่อมเกิดอาการเหนื่อยล้าบริเวณดวงตา จนส่งผลกระทบให้ประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละวันลดลง

วันนี้ Klearbaan จึงนำ 5 ทริคช่วยเพิ่มแสงสว่างในห้องทำงานอย่างไร โดยไม่ทำร้ายดวงตามาฝาก มาดูกันค่ะ จะมีวิธีไหนบ้างจะช่วยถนอมดวงตาของเราให้ดูสดใส

1.แสงธรรมชาติ ปลอดโปร่ง

การได้รับแสงธรรมชาตินอกจากจะประหยัดค่าไฟฟ้าแล้ว ยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอกได้ หากเป็นที่อยู่อาศัยในเมืองที่มีฝุ่น ควันมาก ๆ ไม่แนะนำให้เปิดหน้าต่าง ใช้แค่แสงที่สอดส่องเข้ามาทางด้านกระจกจะดีกว่า แต่หากพื้นที่บริเวณบ้านมีสวนต้นไม้ ที่ให้ความร่มรื่น ควรเปิดบานหน้าต่างไปเลยค่ะ หรือนั่งริมระเบียงที่มีความร่มรื่น มีเงาต้นไม้บังแสงแดดได้ และสามารถรับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอระหว่างนั่งทำงาน

2.การจัดแสงภายในห้อง

เมื่อต้องทำงานในห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่สามารถรับแสงจากภายนอกได้ การจัดแสงภายในห้องจึงมีความสำคัญ เพราะหากใช้แสงไฟผิดประเภทจะส่งผลกับดวงตาของเราได้ ดังนั้นควรจัดแสงไฟโดยการเลือกหลอดไฟ LED หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ เน้นแสงสีขาวที่ให้แสงสว่างรอบห้องทำงาน เพราะเป็นแสงที่ไม่ทำร้ายดวงตา

3. โคมไฟตั้งโต๊ะ 

หากแสงสว่างภายในห้องทำงานไม่เพียงพอ ควรนำโคมไฟมาวางในตำแหน่งที่ต้องการทำงานให้ชัดขึ้น เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะต้องใช้สายตาในการเพ่ง หากแสงสว่างไม่เพียงพออาจทำให้ดวงตาเกิดการเหนื่อยล้าเร็วขึ้น อีกทั้งจะลุกลามไปถึงระบบสมองได้ ดังนั้นการใช้โคมไฟมาช่วยเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนระบบไฟทั้งบ้านและควรเลือกแสงสีขาวให้กลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุดและวางในมุมที่แสงสว่างสะท้อนมากจากด้านหลัง หรือด้านบนศีรษะ เพราะอาจจะมีเงาทำให้ปวดตา

ควรเลือก โคมไฟตั้งโต๊ะที่มีความสูงรวมกับโต๊ะ ประมาณ 60 -64 นิ้ว เพื่อช่วยให้แสงสว่างกระจายได้ทั่วถึงระหว่างที่นั่งทำงาน

ควรวางให้ห่างออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหันโคมไฟเข้ากับผนังด้านหลังจอ เพื่อให้แสงสว่างสะท้อนกว้างขึ้น ก็จะสามารถช่วยลดเงา และทำให้การนั่งทำงานมีประสิทธิภาพ และสบายตามากขึ้น

4.การเลือกระดับแสงของหลอดไฟ

หากต้องเลือกใช้หลอดไฟเพื่อให้แสงสว่างเหมาะสมกับการทำงานควรอยู่ที่ 400-600 ลักซ์  ก่อนอื่นต้องอธิบายถึงความเข้มของแสงสว่างเพื่อให้เข้าใจ (ข้อมูลจากวารสารกรมวิทยาศาสตร์ )

ความเข้มของแสงสว่าง หมายถึง ปริมาณแสงที่กระทบ

ลงบนวัตถุต่อพื้นที่ มีหน่วยเป็นลักซ์หรือลูเมนต่อตารางเมตร โดยมี

วิธีการคำนวณหาค่าความเข้มของแสงสว่างจากแหล่งกำเนิด ดังนี้

E=(LM*N*CU*MF)/A

             เมื่อ

             E          =          ความเข้มของแสงสว่าง (ลักซ์)

             LM      =           ปริมาณความสว่าง (ลูเมน)

             N          =          จ ำนวนหลอดไฟฟ้า

             MF      =           Maintenance Factor

             CU      =           สัมประสิทธิ์การใช้ประโยชน์

             A          =          พื้นที่ใช้สอย หน่วยเป็น ตารางเมตร

             จากสมการนี้สามารถนำมาคำนวณหาจำนวนหลอดไฟที่ควรใช้ได้ภายในห้อง ตามตัวอย่างดังนี้

ถ้าต้องการค่าความเข้มของแสงสว่าง 400 ลักซ์ในห้องที่มีพื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร โดยใช้หลอดฟลูออเรสเซนซ์ขนาด 32 วัตต์ค่าความสว่าง 72 ลูเมนต่อวัตต์ค่าสัมประสิทธิ์การใช้ประโยชน์เท่ากับ 0.8 Maintenance factor เท่ากับ 0.6 ต้องใช้หลอดไฟ

             400 ลักซ์          =         [(72 ลูเมนต่อวัตต์x 32 วัตต์) x N x

                                     0.8 x 0.6]/50

                                     = 18 หลอด     

ต้องใช้หลอดไฟอย่างน้อย 18 หลอดถึงจะได้ค่าความเข้มของแสงสว่าง เท่ากับ 400 ลักซ์ในพื้นที่ ใช้งาน 50 ตารางเมตร ลองคำนวนพื้นที่ในห้องทำงานกันดูนะคะ

5.การเลือกสีของหลอดไฟในห้องทำงาน

การเลือกสีของหลอดไฟก็มีความสำคัญเช่นกัน จากที่กล่าวมาข้างต้นคือ การแนะนำให้ใช้แสงไฟสีขาวเพื่อถนอมสายตา แต่เราจะเลือกอย่างไรมาดูกันค่ะ จะเลือกแบบไหนดี โดยสีของหลอดไฟมีให้เลือกใช้งาน 3 ชนิด ได้แก่

หลอดไฟแบบวอร์มไวท์  ( Warm white )  อุณหภูมิของแสงสีอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 3,000 เคลวิน ให้แสงสว่างไปในโทนสีเหลือง รู้สึกอบอุ่น และช่วยให้ภายในห้องทำงานรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนมากแล้วจะนิยมติดในห้องนั่งเล่น ห้องพักผ่อน

หลอดไฟแบบคูลไวท์ ( Cool white )  อุณหภูมิของแสงสีอยู่ที่ประมาณ 4,000 – 5,000 เคลวิน ให้แสงสว่างไปในโทนสีขาว ทำให้รู้สึกสบายตา จึงเหมาะกับห้องทำงานมากที่สุด

หลอดไฟแบบเดย์ไลท์ ( Daylight  ) เป็นหลอดไฟแสงขาวที่สว่างที่สุด เหมือนแสงสว่างในธรรมชาติ แบบนี้อุณหภูมิของแสงสีอยู่ที่ 6,000 เคลวิน จึงทำให้มองเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับติดในห้องทำงาน เพราะช่วยให้ดวงตาปรับตามธรรมชาติขณะนั่งทำงาน ไม่รู้สึกเมื่อยล้า

ทั้งหมดนี้เป็น 5 ทริคในการเพิ่มแสงสว่างในห้องทำงานโดยไม่ทำร้ายดวงตา ลองนำไปปรับใช้ในห้องทำงานกันนะคะ เพื่อดวงตาที่สวย สว่าง สดใสอยู่คู่กับเราไปนานแสนนาน

 

เรื่องโดย Chidapa Chaisawad

 

Avatar
เขียนโดย
Who Tao

เผื่อว่าคุณจะสนใจ...

Calendar 13 กุมภาพันธ์ 2568
ทำไม ?คุณถึงควรหันมาซื้อของมือสอง ทำไมมันถึงช่วยโลกได้ ?
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 9 กรกฎาคม 2567
เคลียร์บ้านชวนมา Upcycling เปลี่ยนกางเกงยีนส์ไม่ใช้แล้ว มาเป็นของใช้
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 19 เมษายน 2567
6 วิธี แพ็กของอย่างไร ถึงผู้รับปลอดภัย ไม่เสียหาย
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 22 ธันวาคม 2566
เคลียร์บ้าน ชวนมาเช็กของใช้หมดอายุก่อนสิ้นปี
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 17 พฤศจิกายน 2566
5 วิธีจัดการกับโลกออนไลน์ ไม่ให้กระทบสุขภาพ
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 30 ตุลาคม 2566
5 เทคนิคบอกลาห้องรก ๆ ไม่ให้กลับมารกซ้ำได้อีก
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 16 ตุลาคม 2566
6 ทริคจัดเก็บเอกสารสำคัญ ให้หาได้ง่าย ไม่ยุ่งเหยิง
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 18 กันยายน 2566
6 ไอเทมป้องกันแมลงสาบ อย่างได้ผล
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 28 สิงหาคม 2566
7 เคล็ดลับช่วยยืดอายุดอกไม้ในแจกันด้วยวิธีง่าย ๆ
อ่านเพิ่มเติม
Calendar 7 สิงหาคม 2566
5 ไอเดียของขวัญ บอกรักแม่ ฉบับรักษ์โลก
อ่านเพิ่มเติม
บริษัท เคลียร์บ้าน จำกัด